ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคต้อหิน” โดย ณตาจักษุคลินิก

  • By ณตา จักษุคลินิก
  • 10 มกราคม 2568 04:14 น.
Image of Screenshot 2025-01-14 112236.png

โรคต้อหินเป็นกลุ่มของโรคที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทตา (optic nerve) ซึ่งส่งผลต่อการมองเห็นและอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นถาวรหากไม่ได้รับการรักษา สาเหตุหลักมักเกี่ยวข้องกับความดันลูกตาที่สูงเกินไป แต่ในบางกรณีความดันลูกตาอาจอยู่ในระดับปกติก็ได้

สาเหตุของต้อหิน

1. ความดันลูกตาสูง (Intraocular Pressure, IOP):

• เกิดจากการระบายของน้ำหล่อเลี้ยงลูกตา (aqueous humor) ที่ผิดปกติ ทำให้ความดันในตาเพิ่มขึ้น

2. พันธุกรรม:

• มีประวัติครอบครัวเป็นต้อหิน

3. อายุ:

• พบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป

4. โรคประจำตัว:

• เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไมเกรน

5. การบาดเจ็บที่ตา:

• เช่น อุบัติเหตุหรือการอักเสบในตา

6. การใช้ยา:

• เช่น ยาสเตียรอยด์ในระยะยาว

ประเภทของโรคต้อหิน

1. ต้อหินมุมเปิด (Open-angle glaucoma):

• เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด

• การระบายของน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาถูกบล็อกอย่างช้า ๆ

• ไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรก

2. ต้อหินมุมปิด (Angle-closure glaucoma):

• เกิดจากมุมระบายของน้ำหล่อเลี้ยงถูกปิดอย่างรวดเร็ว

• อาการเกิดขึ้นทันที เช่น ปวดตา ตาแดง เห็นแสงจ้า หรือคลื่นไส้

3. ต้อหินชนิดความดันปกติ (Normal-tension glaucoma):

• ความดันลูกตาอยู่ในระดับปกติ แต่เส้นประสาทตาเสียหาย

4. ต้อหินในเด็ก (Congenital glaucoma):

• พบในทารกหรือเด็กเล็ก เกิดจากความผิดปกติของพัฒนาการในลูกตา

5. ต้อหินทุติยภูมิ (Secondary glaucoma):

• เกิดจากปัจจัยอื่น เช่น การอักเสบในตา การใช้ยา หรืออุบัติเหตุ

อาการของต้อหิน

• มองเห็นแคบลง (คล้ายมองผ่านท่อ)

• มองเห็นภาพไม่ชัดหรือเบลอ

• ปวดตา (ในกรณีมุมปิด)

• เห็นแสงรอบดวงไฟ (Halo)

• ตาแดง หรืออาจมีคลื่นไส้ร่วมด้วยในกรณีรุนแรง

การรักษาโรคต้อหิน

1. การใช้ยา (Medications):

• ยาหยอดตาเพื่อลดความดันลูกตา เช่น Beta-blockers, Prostaglandin analogs, Carbonic anhydrase inhibitors

2. การรักษาด้วยเลเซอร์ (Laser therapy):

• เช่น Trabeculoplasty หรือ Iridotomy เพื่อช่วยเปิดช่องระบายน้ำหล่อเลี้ยง

3. การผ่าตัด (Surgery):

• เช่น Trabeculectomy หรือการฝังอุปกรณ์ช่วยระบายน้ำหล่อเลี้ยง

4. การติดตามผล:

• ต้องตรวจติดตามความดันลูกตาและการทำงานของเส้นประสาทตาอย่างสม่ำเสมอ

การป้องกันและดูแลตัวเอง

• ตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปหรือมีประวัติครอบครัว

• ควบคุมโรคประจำตัว เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูง

• หลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตียรอยด์โดยไม่จำเป็น

สรุป

โรคต้อหินเป็นโรคที่ต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที เพราะความเสียหายต่อเส้นประสาทตาไม่สามารถย้อนกลับได้ หากคุณสงสัยว่ามีความผิดปกติในการมองเห็น ควรรีบปรึกษาแพทย์ตาเพื่อตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษา.

article image
article image

รูป แสดงอาการ การสูญ เสียการมองเห็น ในคนไข้ต้อหิน

หมวดหมู่

โพสต์ล่าสุด